วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประวัติศาลหลักเมือง บ้านสังขะ ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ สุรินทร์

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ บ้านสังขะ ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์

                 ประวัติศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ  อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
ปีพุทธศักราช 2306 พระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยามรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์) แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงโปรดแต่งตั้งให้ "เชียงฆะ" หัวหน้าหมู่บ้านโคกอัจจะ หรือบ้านดงยางเป็น "พระสังฆะบุรีศรีนครอัจจะ" และยกฐานะบ้านโคกอัจจะเป็น "เมืองสังฆะ" หลังจากพระสังฆะบุรีศรีนครอัจจะ (เชียงฆะ) ได้รับโปรดเกล้าขึ้นเป็นเจ้าเมืองแล้ว จึงดำริจะจัดสร้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขึ้น บริเวณทิศเหนือจวนเจ้าเมือง โดยมีตำนานเล่าขานกันว่า ในการประกอบพิธีตั้งศาลหลักเมืองนี้ ได้นำนักโทษประหารมาฝังไว้ในหลุม เพื่อเป็นผีบ้านผีเมืองปกปักรักษาบ้านเมือง ตามความเชื่อถือแต่โบราณ และได้นำไม้แก่นมาปักเป็นเสาหลักเมืองบนหลุมศพนักโทษ โดยทำพิธีพรามณ์ตามความเชื่อ และได้มีพีธีบวงสรวงสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองในแรม 13 - 14 ค่ำ หรือ 14 - 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ต่อมาในราวพุทธศักราช 2450 ได้ยกเมืองสังฆะ ขึ้นเป็นอำเภอสังขะ ขึ้นกับเมืองสุรินทร์ และยังคงมีการสืบทอดประเพณีบวงสรวงศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเรื่อยมา



เนื่องจากอาคารที่ตั้งมีสภาพชำรุดทรุดโทรม และแบบแปลนไม่เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการไม่สะดวกสำหรับประชาชนที่มาบวงสรวง สักการะ นายธีระทัศน์  เตียวเจริญโสภา สส.สุรินทร์ ได้ร่วมหารือกับคณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน นักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้าประชาชนชาวอำเภอสังขะ โดยเสนอให้กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบแปลน (โดยยึดแบบศิลปะอีสานใต้ หรือแบบขอมโบราณ)


ต่อมาได้เสนอของบประมาณจากองค์การบริหารส่วนตำบลสังขะ เพื่อสร้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะใหม่ ต่อนายสมบูรณ์  เตียวเจริญโสภา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสังขะ เพื่อของบประมาณอาคารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ ราคากลางไว้ 3,710,000 บาท ซึ่งได้รับความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ จากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสังขะ จัดสรรงบประมาณประจำปี 2549 จำนวน 1,700,000 บาท มาดำเนินการก่อสร้างอาคารเบื้องต้นร้อยละ 40%



เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2549 ได้มีการทำพิธีสักการะอัญเชิญศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ ไปประดิษฐานทางทิศใต้ทางเข้าวัดกลาง (ใต้ต้นโพธิ์) ณ ศาลาชั่วคราว และได้ดำเนินการรื้อทุบอาคารหลังเดิมทิ้ง และวันที่ 9 พฤศจิกายน 2549 ได้มีการทำพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ (สร้างสถานที่เดิม และสถานที่นี้เป็นทรัพย์สินของ อบต.สังขะ ตามบันทึกกรมทางหลวงที่ คค.0635/2/11316 ลว. 18 ก.พ. 2545 ส่งมอบและรับมอบ เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2546) เป็นเบื้องต้นประมาณร้อยละ 40 ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ



ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 องค์การบริหารส่วนตำบลสังขะ ฝ่ายสภาและฝ่ายบริหาร ได้อนุมัติเงินสะสม เพื่อก่อสร้างอาคารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะเพิ่มเติม จำนวน 2,000,000 บาท รวมงบประมาณในการก่อสร้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ ตามแบบแปลนของกรมศิลปากรจนแล้วเสร็จ เป็นเงินทั้งสิ้น 3,700,000 บาท (สามล้านเจ็ดแสนบาทถ้วน) แล้วเสร็จเมื่อ เดือนมกราคม พ.ศ. 2552 เดือนมีนาคม - เมษายน 2552 ได้ดำเนินการก่อสร้างพื้นรอบศาลเจ้าพ่อหลักเมือง รั้วและพื้นรอบรั้ว แล้วเสร็จจากการบริจาคเงินของประชาชน



ในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2552 แรม 14 ค่ำ เดือน 5 พิธีสักการะเซ่นไหว้ พระสงฆ์ 5 รูป สวดถอน ปะพรม พระพุทธมนต์ เจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ (ณ ศาลาชั่วคราว) ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2552 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 พิธีอัญเชิญเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ มาประดิษฐาน ณ อาคารศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ หลังใหม่ เปิดป้าย และเจิมป้ายศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ

จากประวัติศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสังขะ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนับตามอายุขัยประมาณ 346 ปี (2306 - 2552) ในการทำนุบำรุงปูชนียสถานแห่งนี้ ให้เป็นที่เคารพสักการะบูชา และคุ้มครองปกปักรักษาบ้านเมือง ให้ยั่งยืนตราบชั่วนิรันดร์ อยู่ที่ความศรัทธา ความร่วมแรงร่วมใจกันดูแลรักษา ของชาวอำเภอสังขะทุกคน

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์


มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์




จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ/เอกชน และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไทย (ททท.) กำหนดจัดงาน มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ประจำปี 2556 ขึ้นในระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 ณ บริเวณสนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดสุรินทร์ และร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิต คนกับช้างจังหวัดสุรินทร์ให้คงอยู่สืบไป

        ชาวสุรินทร์และ ททท. ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เดินทางมาเที่ยวในช่วงงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ปี 2556 กับกิจกรรมทางการท่องเที่ยวอันหลากหลาย อาทิเช่น ขบวนแห่รถตกแต่งด้วยอาหารช้าง ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้นานานาชนิดที่ผู้จัดทุ่มเทแรงกายแรงใจจัดให้เป็นอาหารช้างที่สวยสดงดงาม ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ชมขบวนแห่ช้างเข้าเมืองที่ช้างนับร้อยเชือกจะเดินไปตามท้องถนน (ถนนธนสาร) ผ่านใจกลางเมืองสุรินทร์ไปยังสถานที่เลี้ยงต้อนรับช้าง 


        ต่อด้วยงานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกโดยกินเนสบุ๊ค เวิลด์ เรคคอร์ด บันทึกไว้ว่าเป็น บุฟเฟ่ต์อาหารช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้นักท่องเที่ยวเพลินเพลินและสุขใจกับการป้อนอาหารช้างอย่างจุใจทั้งคนทั้งช้าง ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง หรือชมการแสดงช้างสุรินทร์อันยิ่งใหญ่อลังการสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศถึงความสามารถและความน่ารักของช้างไทย พร้อมร่วมกิจกรรมไฮไลท์ที่ผู้เข้าชมตั้งตารอเข้าร่วมกับ กิจกรรมชักกะเย่อระหว่างคนกับช้าง ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมทุกท่านสามารถร่วมทดสอบพลังกับช้างไทยได้อย่างเต็มอิ่มและประทับใจกับประสบการณ์ในครั้งนี้ พร้อมที่ จะหลงรักช้างจังหวัดสุรินทร์มิรู้ลืม ในระหว่างวันที่ 16 – 17 พฤศจิกายน 2556 ณ สนามแสดงช้าง จังหวัดสุรินทร์

        นอกจากนี้ จังหวัดสุรินทร์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอันน่าสนใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าชมได้ตลอดทั้งช่วงงานกิจกรรมอันได้แก่

        • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์ ชมและศึกษาจังหวัดสุรินทร์ ทั้งทางด้านภูมิศาสตร์ ธรรมชาติ ชาติพันธุ์โบราณคดี ประวัติศาสตร์เมืองแบบ 360 องศา ผ่านสื่อจำลองที่ทันสมัยที่สุดในอีสานใต้

        • หมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง ชมศิลปะการถักทอเส้นไหม สลับซ้อนดิ้นทองผสมผสานลายราชสำนักโบราณอันอ่อนช้อย วิจิตรงดงาม ร่วมสัมผัสกระบวนการทอผ้าไหมอันน่าตื่นตา ตื่นใจ พร้อมเรียนรู้ภูมิปัญญาการย้อมสีจากธรรมชาติของชาวสุรินทร์ ให้ติดแน่นทนนาน

        • วนอุทยานพนมสวาย สักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 แห่งได้แก่ พระพุทธสุรินทรมงคล, รอยพระพุทธบาทจำลอง, อัฐิหลวงปู่ดุลย์ อตุโล, พระพุทธรูปองค์ดำ, อัฐิหลวงปู่สวน (พระครูพนม ศิลาคุณ), ปราสาทหินพนมสวาย, เจ้าแม่กวนอิม, เต่าหินศักดิ์สิทธิ์ และสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมร่วมเคาะระฆังศักดิ์สิทธิ์ 1,080 ใบเพื่อให้ชื่อเสียงขจรไกลเหมือนระฆัง

        • กลุ่มปราสาทตาเมือน กลุ่มโบราณสถานปราสาทหินสามหลังสามแบบ ในศาสนาฮินดูไศวนิกาย ที่เป็น จุดพักของนักเดินทางในครั้งอดีตตามแนวบริเวณชายแดนไทย กัมพูชา

        • หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ชมวิถีชีวิตของคนเลี้ยง ช้าง ซึ่งเลี้ยงเสมือนเป็นหนึ่งสมาชิก ในครอบครัว พบกับความน่ารัก และแสนรู้ของโขลงช้างกว่า 300 เชือก

        สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ โทร. 0 4451 0239, 0 4452 1358 www.surin.go.th องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โทร. 0 4451 1975 www.surinpao.org เทศบาลตำบลระแงง โทร. 0 4456 1243 ททท. สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0 44 51 4447 - 8 โทรสาร. 0 4451 8530 e-mail : tatsurin@tat.or.th http://www.tourismthailand.org/surin www.facebook.com/TATSurinOffice หรือโทร. 1672